เคยคิดกันไหมครับว่า ขยะอาหารเป็นเรื่องใหญ่มากอีกเรื่องหนึ่ง และการทิ้งอาหารที่กินเหลือนั้นมีผลเสียแค่ไหน...
ก็เพราะกว่าจะผลิตอาหารออกมาให้เรากินในแต่ละหน่วยนั้นต้องใช้ทรัพยากรมากมายจริงๆ National Geographic ยกตัวอย่างว่า การผลิตเนื้อหมู 1 กิโลกรัมนั้น ใช้น้ำทั้งหมดถึง 6,000 ลิตร หรือเทียบได้กับการอาบน้ำฝักบัว 188 ครั้ง และเทียบได้กับการอาบน้ำในอ่างอาบน้ำ 250 ครั้ง
และถ้าเราทิ้งไข่ไก่หนึ่งฟอง นั่นหมายความว่าเราไม่ได้แค่ทิ้งไข่ใบเดียว แต่ยังรวมไปถึงการทิ้งน้ำอีก 208 ลิตรให้สูญเปล่า
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะกระบวนการผลิตอาหารทุกชนิดต้องใช้ทั้งทรัพยากร และเวลาในการผลิต ไม่ว่าจะเป็นน้ำ, แร่ธาตุ, ธัญพืชที่ใช้เลี้ยงสัตว์, ที่ดิน, แรงงาน, พลังงาน และอื่นๆ อีกมากมาย
หากเอาสัดส่วนของขยะอาหารที่เกิดขึ้นในแต่ละปีมากองรวมกัน ต้องใช้ที่ดินในการผลิตอาหารที่เราไม่ได้กินเหล่านี้รวมเป็นพื้นที่กว้างใหญ่กว่าประเทศจีนเสียอีก
มากไปกว่านั้นที่ดินในการเพาะปลูก หรือทำฟาร์มไม่ได้ลอยขึ้นมาเฉยๆ แต่ต้องแลกมาด้วยการทำลายผืนป่าเดิม ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หลายสายพันธุ์ และบ้านของชนพื้นเมืองหลายเผ่า นี่คือผลกระทบที่มองไม่เห็นจากการทิ้งอาหารที่ยังคงกินได้
และผลกระทบนี้ไม่ได้ครอบคลุมแค่การสิ้นเปลืองทรัพยากรในขั้นตอนการผลิตเท่านั้น เมื่ออาหารถูกทิ้งลงในหลุมฝังกลบ กระบวนการย่อยสลายตามธรรมชาติจะก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งหากจัดอันดับสัดส่วนการผลิตก๊าซเรือนกระจกตามประเทศแล้ว ขยะอาหารจะถือเป็นประเทศอันดับที่ 3 ผู้ผลิตก๊าซเรือนกระจกลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศมากที่สุด เป็นรองแค่สหรัฐอเมริกาและจีน
ก๊าซเหล่านี้จะปกคลุมชั้นบรรยากาศส่งผลให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มสูงขึ้น น้ำแข็งละลาย, ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูง ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศแบบสุดขั้ว ซึ่งในที่สุดแล้วผลกระทบจะวนกลับมาทำลายพืชผลทางการเกษตร
เห็นไหมครับว่า ทุกอย่างมันคือลูกโซ่ ดังคำที่ Paul Dirac นักฟิสิกส์รางวัลโนเบล เคยกล่าวเอาไว้ว่า "เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว" (pick a flower on Earth and you move the farthest star)
ในส่วนปัญหาของตัวเราเองนั้น สามารถแก้ไขได้ไม่ยากด้วยการซื้อเพื่อการบริโภคให้พอดีในครัวเรือน สั่งอาหารให้พอดีกับการกินในแต่ละมื้อ ไปจนถึงบริโภคเนื้อสัตว์ให้น้อยลง และแปลงขยะอาหารให้เป็นปุ๋ยชีวภาพ
แล้วในระดับผู้จำหน่ายในอุตสาหกรรมอาหารล่ะ?
ในประเทศไทยเองก็มีโครงการจัดการ food waste เช่นกันครับ โดยเทสโก้ โลตัส เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งแรกในประเทศไทยและเอเชีย ที่วัดและเปิดเผยข้อมูลขยะอาหาร (food waste data) อย่างโปร่งใส และได้ริเริ่มโครงการบริจาคอาหารที่ยังรับประทานได้ให้ผู้ยากไร้ ส่วนอาหารที่รับประทานไม่ได้แล้วบางส่วนก็จะนำไปเลี้ยงสัตว์และทำปุ๋ยอินทรีย์
นอกจากนั้นยังตั้งเป้าลดขยะอาหาร ลงอีกครึ่งหนึ่งภายในปี พ.ศ. 2573 อีกด้วย
Commenti